แบบฟอร์มคำปรึกษานี้ ASSC Workers Voice (AWV) ดำเนินการโดย The Global Alliance for Sustainable Supply Chain (ต่อไปนี้จะเรียกว่า "ASSC")

Please send us your voice

ชื่อ (ไม่บังคับ) (not required)
ข้อมูลการติดต่อ (หมายเลขโทรศัพท์) (ถ้ามี)
อีเมล *
ประเทศที่พำนัก
กรุณาอธิบายกรณีและข้อร้องเรียนของคุณ *
(เมื่อไหร่, ที่ไหน, ใคร, อะไร)
ประสงค์ที่จะไม่ระบุตัวตนเมื่อรายงานต่อบริษัท (ตามรายการที่ด้านบนของหน้านี้) หรือไม่
ความคืบหน้าการสำรวจ / การแจ้งผลให้ทราบ
คุณยินยอมที่จะเปิดเผยคำปรึกษาและความคืบหน้าของคุณโดยไม่ระบุตัวตนบนเว็บไซต์ ASSC และของบริษัท (ตามรายการที่ด้านบนของหน้านี้) หรือไม่

นโยบายความเป็นส่วนตัวของ ASSC Workers Voice (AWV)

 

สถาบัน เดอะ Global Alliance for Sustainable Supply Chains (ต่อไปนี้จะเรียกว่า “ASSC”) ได้กำหนดนโยบาย (ต่อไปนี้จะเรียกว่า “นโยบายนี้”) ที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคลของนิติบุคคลและองค์กรอื่น (ต่อไปนี้จะเรียกว่า “นิติบุคคลต่าง ๆ”) ที่ทำได้สัญญา (ต่อไปนี้จะเรียกว่า “สัญญาฉบับนี้”) เพื่อนำ ASCC Workers Voice (ต่อไปนี้จะเรียกว่า “AWV”) ไปใช้ และผู้ใช้ (ต่อไปนี้จะเรียกว่า “ผู้ใช้”) ที่นิติบุคคลต่าง ๆ กำหนดให้ใช้ AWV

อนึ่ง นิยามของคำศัพท์ที่ใช้ในนโยบายนี้จะต้องเป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (ต่อไปนี้จะเรียกว่า ”กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) และกฎข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง

 

1.   การปฏิบัติตามกฎหมายและแนวทางปฏิบัติ ฯลฯ ที่เกี่ยวข้อง

ที่ ASSC เราปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎข้อบังคับอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง แนวทางที่กำหนดโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กฎระเบียบคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสหภาพยุโรป (GDPR) ข้อมูลส่วนบุคคลของแต่ละประเทศ และกฎบังคับอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องที่ถูกใช้ และนโยบายนี้ และจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

 

2.   การได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคล

ASSC อาจกำหนดให้ผู้ใช้ระบุข้อมูลส่วนบุคคลต่อไปนี้เมื่อใช้ AWV ASSC จะรับ, บันทึก, จัดเก็บหรือวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคลที่ผู้ใช้มอบให้กับ ASSC ด้วยวิธีการที่ถูกต้องตามกฎหมายภายในขอบเขตธุรกิจของ ASSC และวัตถุประสงค์การใช้งานของนโยบายนี้

(1)  ข้อมูลที่ได้รับโดยตรงจากผู้ใช้

อายุ วันเดือนปีเกิด

ชื่อสกุล

ที่อยู่อีเมล

ข้อมูลบัญชี SNS

หมายเลขโทรศัพท์

ข้อมูลที่ ASSC กำหนดว่าจะรับในแบบฟอร์มคำปรึกษาบนเว็บไซต์ของ ASSC

ข้อมูลอื่น ๆ เกี่ยวกับผู้ใช้ที่กำหนดโดย ASSC

(2)     ข้อมูลเทอร์มินัล

ตัวระบุเครื่องปลายทาง, ตัวระบุเครื่องปลายทางมือถือ และที่อยู่ IP เมื่อผู้ใช้ใช้ AWV บนเครื่องปลายทางหรือเครื่องปลายทางมือถือ

ข้อมูลอื่นใดที่ผู้ใช้เลือกที่จะมอบให้ เช่น ชื่อที่ผู้ใช้เชื่อมโยงกับเครื่องปลายทาง, ประเภทเครื่องปลายทาง, หมายเลขโทรศัพท์, ประเทศและชื่อผู้ใช้หรือที่อยู่อีเมล

(3)  ข้อมูลสถานที่

ข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งปัจจุบันของผู้ใช้เมื่อผู้ใช้ใช้ AWV บนเครื่องปลายทางหรือเครื่องปลายทางมือถือ และตกลงที่จะให้ข้อมูลตำแหน่งสถานที่นั้น

(4)  ข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำของผู้ใช้

ข้อมูลที่ผู้ใช้มอบให้กับ ASSC โดยตรงเมื่อใช้ AWV

ข้อมูลที่ให้ผ่านบุคคลที่สามที่ให้บริการ AWV (ต่อไปนี้จะเรียกว่า “ผู้ให้บริการ”)

ข้อมูลเกี่ยวกับสถานะการใช้งาน AWV ของผู้ใช้และการโต้ตอบกับผู้ใช้รายอื่น

(5)  ข้อมูลการสื่อสาร

การจัดเก็บข้อมูลการสื่อสารในกรณีที่เข้าร่วมกิจกรรมบางอย่างที่ผู้ใช้สื่อสารและแบ่งปันข้อมูล (รวมถึงข้อความ, โปรไฟล์ผู้ใช้, ข้อความ, รูปภาพ, ภาพเคลื่อนไหว, วิดีโอ, แอปพลิเคชัน และเนื้อหาข้อมูลอื่น ๆ) กับผู้ใช้รายอื่นใน AWV

(6)  ข้อมูลที่ได้รับโดยการใช้คุกกี้

ข้อมูลทางเทคนิคเฉพาะด้านล่างเมื่อเข้าถึง AWV

คุกกี้, ที่อยู่ IP, ประเภทเครื่องปลายทาง, ตัวระบุเครื่องปลายทางมือถือ, ประเภทเบราว์เซอร์, ภาษาของเบราว์เซอร์, เพจอ้างอิงและเพจทางออก, ประเภทแพลตฟอร์ม, จำนวนคลิก, ชื่อโดเมน, แลนดิ้งเพจ, จำนวนการดูเพจ และลำดับการดูเพจ URL ของแต่ละเพจ, ระยะเวลาในการดูเพจที่ระบุไว้หรือสถานะเว็บไซต์และวันเวลาที่ทำกิจกรรมบนเว็บไซต์ และข้อมูลอื่น ๆ ที่ใช้ไฟล์บันทึกและเทคโนโลยีการติดตามโดย ASSC และผู้ให้บริการที่ดำเนินการในนามของ ASSC (อาจมีการเชื่อมโยงกับผู้ใช้ข้อมูลเหล่านี้โดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้งานภายใน นอกจากนี้ อาจมีการใช้เทคโนโลยีอย่างอื่นซึ่งรวมถึงแทร็กกิ้งพิกเซลที่ช่วยให้สามารถทำการโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จากการนำเสนอการโฆษณาไปยังผู้ใช้งานบนเว็บบีคอน หรือเว็บไซ้ต์อื่น ๆ เพื่อตรวจสอบว่ามีการเข้าชมเพจที่ระบุไว้หรือไม่ หรือมีการเปิดเมลหรือไม่ )

(7)  ข้อมูลที่ได้รับผ่านความร่วมมือกับบริการภายนอก

ข้อมูลที่ผู้ใช้อนุญาตให้เปิดเผยต่อบริษัทพันธมิตรตามการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของบริการภายนอก

 

3.   วัตถุประสงค์ของการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่ผู้ใช้มอบให้ ASSC นั้น ASSC จะใช้ภายในขอบเขตของวัตถุประสงค์ในการให้บริการ AWV และวัตถุประสงค์อื่น ๆ ที่ระบุไว้ด้านล่าง หรือภายในขอบเขตของวัตถุประสงค์การใช้งานที่ชัดเจนจากสถานะการได้มา ข้อมูลจะไม่ถูกนำไปใช้นอกเหนือจากวัตถุประสงค์การใช้งาน เว้นแต่ผู้ใช้จะยินยอมให้ใช้ หรือตามที่ระบุไว้เป็นอย่างอื่นในเงื่อนไขการใช้งาน หรือตามที่กฎหมายอนุญาต

(1) วัตถุประสงค์ของการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับผู้ใช้ที่ทำงานในโรงงาน ร้านค้า สำนักงาน และสถานที่อื่นๆ

การตรวจสอบ, วิจัยและวิเคราะห์สภาพแวดล้อมการทำงานในที่ทำงาน

การรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมการทำงานในที่ทำงาน

การรักษาความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน

การนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล

คำแนะนำเกี่ยวกับพฤติกรรมของพนักงาน

การสื่อสารที่เหมาะสมและราบรื่นกับผู้ใช้

การมีส่วนร่วมในสื่อโฆษณาเช่นนิตยสารและเว็บไซต์

(2) วัตถุประสงค์ของการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับองค์กรที่ผู้ใช้สังกัด พันธมิตรทางธุรกิจ (ต่อไปนี้จะเรียกว่า “พันธมิตรทางธุรกิจ”) และบริษัทอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกัน

การตรวจสอบ, วิจัย และวิเคราะห์สภาพแวดล้อมการทำงานในสถานที่ทำงานของผู้ใช้

การรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมการทำงาน ณ สถานที่ทำงานของผู้ใช้

การรักษาความปลอดภัยในสถานที่ทำงานของผู้ใช้

การนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล

คำแนะนำเกี่ยวกับการดำเนินการของพันธมิตรทางธุรกิจ

การแจ้งเตือนและรายงานไปยังหน่วยงานของรัฐและองค์กรสมาชิก

การสื่อสารที่เหมาะสมและราบรื่น

การมีส่วนร่วมในสื่อโฆษณาเช่นนิตยสารและเว็บไซต์

(3) วัตถุประสงค์การใช้งานเกี่ยวกับข้อมูลการลงทะเบียนและข้อมูลส่วนบุคคล (ต่อไปนี้เรียกว่า “ข้อมูลการลงทะเบียนต่าง ๆ”)

การจัดการ AWV (รวมถึงการให้ข้อมูลต่าง ๆ จาก ASSC แก่องค์กรต่าง ๆ หรือผู้ใช้)

การให้ข้อมูลเกี่ยวกับบริการของ ASSC ที่รวมถึง AWV ที่ ASSC พิจารณาแล้วว่าเป็นประโยชน์ต่อนิติบุคคลต่าง ๆ หรือผู้ใช้ หรือผลิตภัณฑ์และบริการของผู้ลงโฆษณาและบริษัทพันธมิตร

แบบสำรวจแบบสอบถามเพื่อควบคุมคุณภาพของ AWV และการวิเคราะห์ผลลัพธ์

การติดต่อผู้ใช้เกี่ยวกับเรื่องที่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการดำเนินงานของ AWV (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในเนื้อหา AWV และการระงับชั่วคราว)

การติดต่อผู้ใช้เพื่อขอความยินยอมเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลการลงทะเบียนต่าง ๆ

 

4.   ฝากขาย

ASSC อาจมอบหมายให้บุคคลภายนอกจัดการข้อมูลส่วนบุคคลบางส่วนหรือทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ข้อมูลส่วนบุคคลที่มอบหมายให้นั้นจะถูกจำกัดอยู่ที่ขอบเขตเท่าที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานที่มอบหมายให้เท่านั้น อนึ่ง อาจมีการนำมอบหมาย หรือส่งมอบข้อมูลส่วนบุคคลไปยังผู้รับมอบหมายที่อยู่ในต่างประเทศด้วย

 

5.   ส่งมอบให้บุคคลที่สาม

ASSC จะไม่ส่งมอบข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลที่สาม (ยกเว้นผู้ที่ได้รับมอบหมาย) เว้นแต่กรณีที่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้ก่อน หรือกรณีที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่บังคับใช้ หรือกรณีที่กฎหมายอื่น ๆ ที่บังคับใช้ระบุว่าไม่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้. อย่างไรก็ตาม นิติบุคคลต่าง ๆ และผู้ใช้ตกลงว่า ASSC อาจเปิดเผยข้อมูลการลงทะเบียนต่าง ๆให้กับบุคคลที่สามที่ไม่ใช่ผู้ใช้ในกรณีต่อไปนี้

(1)    กรณีเมื่อเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลที่ลงทะเบียนต่าง ๆ เพื่อวัตถุประสงค์ในการปรับปรุง AWV หรือบริการที่เกี่ยวข้องหรือพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวข้อง

(2)    กรณีทีข้อมูลที่ได้รับจากการเก็บรวบรวมและการวิเคราะห์ตามหัวข้อก่อนหน้านี้ถูกเปิดเผยหรือมอบให้กับบุคคลที่สามในลักษณะที่ไม่สามารถจำแนกหรือระบุตัวบุคคลได้

(3)    กรณีที่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้ข้อมูลที่ลงทะเบียนต่าง ๆ ที่เข้าข่ายเกี่ยวกับการเปิดเผยหรือการใช้ข้อมูลการลงทะเบียนต่าง ๆ

(4)    กรณีที่เห็นว่าจำเป็นต้องเปิดเผยหรือใช้ข้อมูลการลงทะเบียนต่าง ๆ เพื่อให้บริการตามที่นิติบุคคลต่าง ๆ หรือผู้ใช้ต้องการ

(5)    หากบุคคลที่สาม เช่น หุ้นส่วน ต้องการข้อมูลการลงทะเบียนต่าง ๆ เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้บริการตามที่นิติบุคคลต่าง ๆ หรือผู้ใช้ต้องการ (อนึ่ง บุคคลที่สาม เช่น หุ้นส่วนที่เกี่ยวข้องไม่สามารถใช้ข้อมูลการลงทะเบียนต่าง ๆ ที่ ASSC จัดหาให้เพื่อให้บริการเกินกว่าขอบเขตที่จำเป็นได้)

(6)    เมื่อเป็นไปตามกฎหมายและข้อบังคับ

(7)    กรณีที่มีความจำเป็นต้องรักษาไว้ซึ่งชีวิต, ร่างกาย, หรือทรัพย์สินของ ASSC, นิติบุคคลต่าง ๆ, ผู้ใช้หรือบุคคลที่สามอื่น ๆ, หรือบริการทั้งหมดที่ ASSC จัดให้

(8)    กรณีที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการปรับปรุงด้านสาธารณสุข หรือส่งเสริมพัฒนาการด้านสุขภาพของเด็ก

(9)    กรณีทีมีความจำเป็นต้องร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐ, องค์กรราชการส่วนท้องถิ่น หรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายจากหน่วยงานดังกล่าวในการดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด หรือเมื่อถูกร้องขอโดยชอบด้วยกฎหมายจากบุคคลดังกล่าวให้เปิดเผย

 

6.   การถ่ายโอนข้อมูล

หาก ASSC ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศอื่นที่ไม่ใช่ญี่ปุ่น ข้อมูลนั้นอาจถูกถ่ายโอนจากประเทศไปยังสำนักงานของ ASSC ในญี่ปุ่นหลังจากใช้มาตรการที่จำเป็น เช่น ได้รับความยินยอมตามบทบัญญัติทางกฎหมาย เป็นต้น

 

7.   การจัดการข้อมูลส่วนบุคคล

(1)      การรักษาไว้ซึ่งความถูกต้องของเนื้อหาข้อมูล

ASSC มุ่งมั่นที่จะรักษาข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้องและเป็นปัจจุบันตามขอบเขตที่จำเป็นต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ในการใช้งาน และลบข้อมูลส่วนบุคคลที่เข้าข่ายเมื่อไม่จำเป็นต้องใช้อีกต่อไป

(2)      มาตรการการจัดการความปลอดภัย

ASSC จะใช้มาตรการที่จำเป็นและเหมาะสมเพื่อป้องกันการรั่วไหล, การสูญหาย หรือความเสียหายของข้อมูลส่วนบุคคลและการจัดการความปลอดภัยอื่น ๆ ตามที่อธิบายไว้ด้านล่าง สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการการจัดการด้านความปลอดภัยที่ ASSC ดำเนินการ โปรดติดต่อสอบถาม “แผนกสอบถามและจัดการเรื่องร้องเรียน” ในข้อ 11

แม้ว่าสภาพแวดล้อมอินเทอร์เน็ตจะไม่ปลอดภัย 100% แต่ ASSC มุ่งมั่นที่จะรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่ผู้ใช้ส่งไปยัง ASSC เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่ผู้ใช้มอบให้กับ ASSC บริษัทของเรา (i) จะให้ความชัดเจนในเรื่องของอุปกรณ์ที่สามารถจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและพนักงานที่ใช้อุปกรณ์ดังกล่าว และป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่จำเป็น () ระบุและรับรองพนักงานที่ใช้ระบบข้อมูลที่ดำเนินการกับฐานข้อมูลข้อมูลส่วนบุคคล ฯลฯ โดยใช้ฟังก์ชันการควบคุมผู้ใช้ (การควบคุมบัญชีผู้ใช้) ที่เป็นฟังก์ชันมาตรฐานบนอุปกรณ์ () รักษาระบบการทำงานของอุปกรณ์ที่จัดการข้อมูลส่วนบุคคล ฯลฯ ให้อยู่ในสภาพที่ทันสมัย () นำซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัย ฯลฯ มาใช้กับอุปกรณ์ที่จัดการข้อมูลส่วนบุคคล และอัปเดตให้ทันสมัยอยู่เสมอโดยใช้ฟังก์ชันอัพเดตอัตโนมัติ เป็นต้น () เมื่อส่งไฟล์ที่มีข้อมูลส่วนบุคคลทางอีเมล ฯลฯ จะใช้มาตรการต่างๆ เช่น การตั้งรหัสผ่านสำหรับไฟล์ เป็นต้น

หากมาตรการป้องกันทางด้านกายภาพ, ด้านเทคนิค หรือการบริหารจัดการของ ASSC ถูกทำลาย จนมีการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต มีการเผยแพร่, เปิดเผย, ดัดแปลง หรือทำลาย จนเป็นเหตุให้ผู้ใช้เสียสิทธิ์และผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมาย ASSC จะต้องรับผิดชอบตามกฎหมายตามกฎหมายที่บังคับใช้

ในกรณีที่มีการรั่วไหล การสูญหาย หรือความเสียหายของข้อมูลส่วนบุคคล (ต่อไปนี้เรียกว่า “เหตุการณ์ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล”) ASSC จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายข้อบังคับที่ถูกนำมาใช้ และแจ้งผู้ใช้งานข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องให้ทราบถึงสถานะพื้นฐานของเหตุการณ์ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลและผลกระทบอันอาจเกิดขึ้น, มาตรการแก้ไขที่ ASSC ได้ทำแล้วและตั้งใจจะทำ, การป้องกันโดยผู้ใช้งานเองและข้อเสนอในการป้องกันและลดความเสี่ยง, รวมถึงมาตรการช่วยเหลือที่จะมีไปยังผู้ใช้งานโดยไม่ชักช้า ASSC จะแจ้งให้ผู้ใช้ที่เกี่ยวข้องทราบถึงสถานะที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ชักช้าทางอีเมล จดหมาย โทรศัพท์ ฯลฯ หากเป็นการยากที่จะแจ้งให้ผู้ใช้แต่ละรายทราบเป็นรายบุคคล ASSC อาจประกาศต่อสาธารณะด้วยวิธีการที่สมเหตุสมผลและมีประสิทธิภาพ ASSC จะรายงานสถานะของการจัดการเหตุการณ์ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายที่บังคับใช้และคำร้องขอจากหน่วยงานของรัฐ

(3)      การกำกับดูแลของพนักงาน

เมื่อให้พนักงานดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคล ASSC จะตรวจสอบอย่างรอบด้านว่ามีการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลอย่างถูกต้องไปพร้อม ๆ กับดำเนินการฝึกอบรมอย่างเหมาะสม และจัดให้มีการกำกับดูแลที่จำเป็นและเหมาะสม

(4)      การกำกับดูแลผู้ที่ได้รับมอบหมาย

เมื่อมีการมอบหมายบุคคลภายนอกให้จัดการข้อมูลส่วนบุคคล ASSC จะเลือกบริษัทคู่ค้าที่ใช้มาตรการการจัดการความปลอดภัยที่เหมาะสมกับการเป็นผู้รับมอบหมาย และควบคุมดูแลผู้รับมอบหมายตามความจำเป็นและอย่างเหมาะสม

(5)      ตามหลักการแล้ว ASSC จะรวบรวม, จัดเก็บ และสำรองข้อมูลส่วนบุคคลในญี่ปุ่น แม้ว่าผู้ใช้จะอยู่ต่างประเทศก็ตาม

 

8.   การขอเปิดเผยข้อมูลต่าง ๆ

ASSC จะแจ้งให้ทราบถึงวัตถุประสงค์ของการใช้, เปิดเผย แก้ไข เพิ่มเติม หรือลบข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บไว้หรือบันทึกที่มอบให้กับบุคคลที่สาม, และขอระงับการใช้งานหรือระงับการจัดหาให้กับบุคคลที่สาม (ต่อไปนี้จะเรียกว่า “การขอเปิดเผยข้อมูลต่าง ๆ”) ตามที่กำหนดไว้ดังต่อไปนี้

(1)      หากผู้ใช้หรือตัวแทนร้องขอการให้แจ้งถึงวัตถุประสงค์ของการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีอยู่หรือให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีอยู่หรือบันทึกที่มอบให้บุคคลที่สาม เราจะเปิดเผยโดยไม่ชักช้าเว้นเสียแต่กฎหมายและข้อบังคับที่ถูกนำมาใช้จะกำหนดว่าไม่จำเป็นต้องเปิดเผย ซึ่งรวมถึง แต่ไม่จำกัดเฉพาะในกรณีดังต่อไปนี้ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะเข้าข่ายในกรณีดังต่อไปนี้ แต่หากจะต้องเปิดเผยตามกฎหมายและข้อบังคับที่ถูกนำมาใช้แล้ว เราก็จะเปิดเผย

ก.   หากการเปิดเผยแล้วอาจเป็นอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน หรือสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ของผู้ใช้หรือบุคคลที่สาม

ข.   การเปิดเผยข้อมูลอาจจะส่งผลเสียต่อสิทธิหรือผลประโยชน์อันชอบธรรมของ ASSC

ค.   การเปิดเผยข้อมูลอาจเป็นอุปสรรคอย่างมีนัยสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจตามสมควรจะเป็นของ ASSC

ง.    การเปิดเผยข้อมูลเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายและข้อบังคับ

จ.   กรณีที่ไม่สามารถตรวจสอบยืนยันได้ว่าคำร้องขอเปิดเผยมาจากตัวผู้ใช้เอง

(2)      หากผู้ใช้หรือตัวแทนร้องขอให้แก้ไข, เพิ่มเติมหรือลบข้อมูลส่วนบุคคลที่มีอยู่ เราจะตรวจสอบโดยไม่ชักช้า และจะทำการแก้ไข เพิ่มเติมและลบข้อมูลส่วนบุคคลที่เข้าข่ายที่มีอยู่ ตามผลลัพธ์ของการตรวจสอบในขอบเขตที่อนุญาตโดยกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎหมายและข้อบังคับอื่น ๆ ที่ถูกนำมาใช้

(3)      หากมีคำขอจากผู้ใช้หรือตัวแทนให้ระงับการใช้งาน การจำกัดการประมวลผล หรือการระงับการให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีอยู่แก่บุคคลที่สาม และหากพิจารณาแล้วว่ามีเหตุผลในการร้องขอ เราจะดำเนินการตอบรับอย่างเหมาะสมตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและ กฎหมายข้อบังคับอื่น ๆ ที่ถูกนำมาใช้

(4)      หากได้รับคำขอจากผู้ใช้หรือตัวแทนให้จัดโครงสร้างข้อมูลส่วนบุคคล, ให้ใช้งานโดยทั่วไป, หรือรับมาในรูปแบบที่สามารถอ่านด้วยเครื่องได้ เราจะดำเนินการตอบรับตามความเหมาะสม นอกจากนี้ ผู้ใช้หรือตัวแทนมีสิทธิ์ในการถ่ายโอนข้อมูลที่เข้าข่ายไปยังผู้ดูแลอื่นได้ โดยที่ไม่เป็นอุปสรรคต่อ ASSC

(5)      กรณีทีมีคำร้องขอใด ๆ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลที่ ASSC มีอยู่ตามที่บันทึกไว้ในแต่ละส่วนของสัญญาฉบับนี้ โปรดติดต่อ “แผนกสอบถามและจัดการเรื่องร้องเรียน” ในข้อ 11 คำขอจะถูกแบ่งปันภายใน ASSC และดำเนินการตามนั้น ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับมาจะถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการตอบสนองต่อคำขอจากผู้ใช้และจะถูกเก็บรักษาไว้อย่างเคร่งครัด โปรดทราบว่าเอกสารที่แนบมา เช่น ใบแจ้งหนี้และเอกสารยืนยันตัวตนจะไม่ถูกส่งคืน

 

9.       การจัดการข้อมูลที่ประมวลผลโดยไม่เปิดเผยตัวตน

ASSC จะได้รับข้อมูลที่ประมวลผลโดยไม่ระบุตัวตนที่ได้รับการประมวลผลโดยวิธีที่เหมาะสมภายในขอบเขตที่อนุญาตโดยกฎหมายและข้อบังคับที่ถูกนำมาใช้ เพื่อให้ไม่สามารถกู้คืนข้อมูลส่วนบุคคลหรือระบุบุคคลได้ตามกฎหมายและข้อบังคับ และใช้ในการวิเคราะห์, แยกแยะ, ตรวจสอบ ฯลฯ พร้อม ๆ กันนั้นอาจจะส่งต่อให้บุคคลที่สามภายในขอบเขตที่จำเป็นต่อการทำงาน ภายหลังจากที่เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ประมวลผลโดยไม่ระบุตัวตน นอกจากนี้ รายการข้อมูลที่เกี่ยวกับบุคคลที่รวมอยู่ในข้อมูลที่ประมวลผลโดยไม่ระบุตัวตนที่ให้ไว้ และวิธีการให้ข้อมูลที่ประมวลผลโดยไม่ระบุตัวตน มีดังต่อไปนี้

(1)        ข้อมูลที่ประมวลผลโดยไม่ระบุตัวตนที่จะสร้างขึ้น

ข้อมูล เช่น เพศ อายุ ฯลฯ

ข้อมูลเกี่ยวกับเนื้อหาคำปรึกษา

(2)        ข้อมูลที่ประมวลผลโดยไม่ระบุตัวตนที่มอบให้กับบุคคลที่สาม

(i)          รายการข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล

ข้อมูล เช่น เพศ อายุ ฯลฯ

ข้อมูลเกี่ยวกับเนื้อหาคำปรึกษา

(ii)        วิธีการให้ข้อมูลที่ประมวลผลโดยไม่ระบุตัวตน

การอัปโหลดไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่จัดการการเข้าถึงที่เหมาะสม ส่งทางอีเมล หรือส่งสื่อจัดเก็บข้อมูลภายนอก เช่น USB

 

10.     ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

ASSC จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ไว้ตลอดระยะเวลาของข้อตกลงนี้ อนึ่ง ข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่จำเป็นอีกต่อไปจะถูกลบหรือกำจัดโดยไม่ต้องรับความยินยอมล่วงหน้าหรือภายหลัง ASSC อาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บางรายตามความจำเป็นเพื่อความปลอดภัยและการป้องกันการทุจริต

 

11.     ช่องทางติดต่อเพื่อสอบถามและจัดการข้อร้องเรียน

สำนักงานสถาบัน Global Alliance for Sustainable Supply Chains ASSC Workers Voice (AWV)

141-0032

ชั้น 6 อาคาร Estage Osaki 3-5-2 Osaki, Shinagawa-ku, Tokyo

โทร: 050-6875-4342 (ตัวแทน)

เวลาทำการของแผนกต้อนรับทางโทรศัพท์: 09:00 น. - 17:00 น

(ยกเว้นวันเสาร์ วันอาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ และวันหยุดของบริษัทเรา)

E-mail: AWV_Office@g-assc.org

 

โดยปกติเราจะตอบกลับภายใน 30 วัน หากไม่สามารถตอบกลับได้ภายใน 30 วัน เราจะแจ้งให้ทราบต่างหากว่าจะตอบกลับภายในเมื่อไหร่

 

12.     การแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัว

ASSC อาจทบทวนเนื้อหาของนโยบายนี้เป็นครั้งคราว และทำการเปลี่ยนแปลงตามความจำเป็น การเปลี่ยนแปลงใด ๆ จะถูกโพสต์บนเว็บไซต์ ASSC ในกรณีดังกล่าว นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับแก้ไขจะใช้บังคับตั้งแต่วันที่เผยแพร่ฉบับแก้ไข หรือวันที่มีผลบังคับใช้ที่ระบุแยกไว้ต่างหากในการเผยแพร่ที่เกี่ยวข้องกัน ASSC จะแจ้งให้ทราบอย่างชัดเจนยิ่งขึ้นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงเรื่องดังต่อไปนี้:

(1)   กรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงในสาระสำคัญของวัตถุประสงค์หรือวิธีการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

(2)   เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในรูปแบบความเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล, โครงสร้างองค์กร ฯลฯ เช่น การเปลี่ยนแปลงความเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอันเนื่องมาจากการปรับตัวทางธุรกิจ, การล้มละลาย, การควบรวมกิจการหรือการเข้าซื้อกิจการ

(3)   กรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงในการแบ่งปัน, ถ่ายโอน, หรือเป้าหมายของการแสดงและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

(4)   กรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในสิทธิหรือวิธีการใช้ที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้

 

 

วันที่ประกาศใช้: 3 กรกฎาคม 2020
วันที่แก้ไข: 15 พฤษภาคม 2024

 

ข้อตกลงการใช้งาน ASSC Workers Voice (AWV)

ข้อตกลงนี้ เป็นข้อตกลงการใช้งานที่มีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดเงื่อนไขการใช้งาน ASSC Workers Voice (ต่อไปนี้จะเรียกว่า “AWV”) ที่ให้บริการโดย Global Alliance for Sustainable Supply Chains (ต่อไปนี้จะเรียกว่า “ASSC”) ระหว่างนิติบุคคลหรือองค์กรอื่นใด (ต่อไปนี้จะเรียกว่า “นิติบุคคลต่าง ๆ”) ที่ทำสัญญาในการนำ AWV ไปใช้ หรือผู้ใช้ที่นิติบุคคลต่าง ๆ กำหนดให้ใช้ AWV (ต่อไปนี้จะเรียกว่า “ผู้ใช้”) กับ ASSC
 
ข้อที่ 1    (การยอมรับในข้อตกลงนี้)
1.   นิติบุคคลต่าง ๆ และผู้ใช้จะใช้ AWV ตามข้อกำหนดของข้อตกลงนี้ และข้อบังคับส่วนบุคคล เช่น นโยบายความเป็นส่วนตัวของ ASSC Workers Voice (AWV) ที่กำหนดไว้ต่างหากโดย ASSC
2.   หากผู้ใช้เป็นผู้เยาว์ ผู้ใช้จะใช้ AWV ได้หลังจากได้รับความยินยอมจากตัวแทนตามกฎหมาย เช่น ผู้ปกครอง (รวมถึงการยินยอมรับในข้อตกลงนี้) นอกจากนี้ หากผู้ใช้ที่เป็นผู้เยาว์ใช้ AWV เมื่อยอมรับข้อตกลงนี้แล้ว หลังจากที่บรรลุนิติภาวะ จะถือว่าผู้ใช้ยอมรับที่จะผูกพันตนในพฤติกรรมการใช้งานในช่วงเวลาที่ยังเป็นผู้เยาว์ด้วย
3.   หากมีข้อตกลงการใช้งานที่แยกไว้ต่างหากสำหรับการใช้งาน AWV ผู้ใช้จะต้องใช้ AWV ตามข้อกำหนดของข้อตกลงการใช้งานที่แยกไว้นอกเหนือจากข้อตกลงการใช้งานนี้
4.   หากกฎหมายข้อบังคับอื่นนอกเหนือจากกฎหมายญี่ปุ่นถูกนำมาใช้กับการใช้ AWV นิติบุคคลต่าง ๆ และผู้ใช้จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่ถูกนำมาใช้
 
ข้อที่ 2    (การเปลี่ยนแปลงข้อตกลง)
1.      หาก ASSC พิจารณาว่าการเปลี่ยนแปลงไม่ละเมิดวัตถุประสงค์ที่ ASSC ได้ทำสัญญาไว้ และความจำเป็น, ความเหมาะสมของเนื้อหาที่เปลี่ยนแปลง, การมีอยู่และเนื้อหาของรายการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งเหตุจำเป็นที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ นั้นมีความสมเหตุสมผล ก็จะสามารถเปลี่ยนแปลงข้อตกลงนี้ได้ทุกเมื่อ
2.      ข้อตกลงนี้ หลังจากที่เปลี่ยนแปลงแล้วจะมีผลบังคับใช้นับตั้งแต่เวลาที่โพสต์ในสถานที่ที่เหมาะสมภายใน AWV หรือในเว็บไซต์ที่ดำเนินการโดย ASSC, หรือจากวันที่มีผลบังคับใช้ซึ่งระบุไว้แยกต่างหากในการโพสต์ที่เกี่ยวข้อง หลังจากการเปลี่ยนแปลงข้อตกลงนี้ แม้ว่าจะไม่สอดคล้องกับผลประโยชน์โดยทั่วไปของผู้ใช้ จะถือว่าผู้ใช้ยอมรับว่าการเปลี่ยนแปลงของข้อตกลงนี้มีผลบังคับใช้ และไม่สามารถเพิกถอนได้หากมีการใช้งาน AWV อย่างต่อเนื่องภายหลังจากที่เปลี่ยนแปลงข้อตกลงนี้แล้ว ในการที่ผู้ใช้ใช้ AWV นั้น ผู้ใช้จะต้องอ้างอิงถึงเวอร์ชันล่าสุดของข้อตกลงนี้เป็นครั้งคราว
3.      หากนิติบุคคลต่าง ๆ ทำข้อตกลงที่ต่างจากข้อตกลงนี้กับ ASSC ไว้ต่างหาก ข้อตกลงที่แตกต่างกันนั้นจะมีความสำคัญเหนือกว่าข้อตกลงนี้ในแง่ความสัมพันธ์กับนิติบุคคลต่าง ๆ และผู้ใช้ และนิติบุคคลต่าง ๆ จะแจ้งถึงเนื้อหาของข้อตกลงที่เกี่ยวข้องให้ผู้ใช้ทราบ
 
ข้อที่ 3    (ภาพรวมของ AWV)
AWV รวมถึงบริการที่ระบุไว้ในข้อตกลงนี้ที่ ASSC จัดหาให้ภายใต้ชื่อ AWV, และบริการอื่น ๆ ที่นิติบุคคลต่าง ๆหรือผู้ใช้ที่ตกลงเอาไว้ต่างหากกับ ASSC ทั้งการให้คำปรึกษาจากฝ่ายผู้ใช้, การสนอแนะสำหรับการปรับปรุง การแบ่งปันประเด็นปัญหากัน และการเข้าตรวจสอบสถานที่ทำงานของผู้ใช้, การรายงาน และเสนอแนะตอบกลับไปยังนิติบุคคลต่างๆ, การสร้างฐานข้อมูล, การวิเคราะห์, การรายงานสาธารณะประโยชน์, การร้องขอไปยังทนายความหรือบุคคลอื่น ๆ ที่ ASSC เห็นว่าจำเป็น, การสนับสนุน ช่วยเหลือไปยังนิติบุคคลต่าง ๆ หรือผู้ใช้ และบริการอื่น ๆ ที่ASSC ระบุ ASSC นิติบุคคลต่าง ๆ และบุคคลที่สามอื่น ๆ ที่ ASSC เห็นว่ามีความจำเป็นอาจให้ความร่วมมือในการให้บริการเหล่านี้ นิติบุคคลต่าง ๆ หรือผู้ใช้สามารถใช้ AWV ตามข้อตกลงนี้และเนื้อหาที่ตกลงกับ ASSC ไว้ต่างหาก อนึ่ง ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นเพื่อรับอีเมล, เข้าดูเว็บไซต์ และการสื่อสารอื่น ๆ ด้วยอุปกรณ์สื่อสารข้อมูล อันรวมถึงโทรศัพท์มือถือเมื่อใช้ AWV จะเป็นภาระของนิติบุคคลต่าง ๆ หรือผู้ใช้ ASSC อาจว่าจ้างบุคคลอื่นในการดำเนินการของ AWV
 
ข้อที่ 4    (การให้บริการ AWV)
1.      ASSC จะจำกัดการมีอยู่ของข้อมูลทั้งหมดที่นิติบุคคลต่าง ๆ หรือผู้ใช้มอบให้ ASSC (ต่อไปนี้จะเรียกว่า “ข้อมูลลงทะเบียน”) และผู้ใช้ที่บรรลุเงื่อนไขอื่น ๆ ที่ ASSC เห็นว่าจำเป็น และสามารถให้บริการ AWV ทั้งหมดหรือบางส่วนได้
2.      นิติบุคคลต่าง ๆ และผู้ใช้จะต้องตรวจสอบชื่อของ AWV, เนื้อหา, อายุ, สภาพแวดล้อมการใช้งาน และเงื่อนไขอื่น ๆ ที่กำหนดโดย ASSC และใช้ AWV ตามเงื่อนไขที่เกี่ยวข้อง และภายในขอบเขตที่กำหนดโดย ASSC
3.      ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม ASSC อาจกำหนดหรือเปลี่ยนชื่อและขอบเขตการใช้งานของ AWV ได้ รวมทั้งสามารถตั้งค่า, เพิ่มเติม, ลบ, เปลี่ยนแปลงเนื้อหา, ระงับ, ยกเลิก หรือดำเนินการอื่นใดที่จำเป็นเกี่ยวกับฟังก์ชั่นทั้งหมดหรือบางส่วนของ AWV ได้ โดยที่ไม่ต้องแจ้งให้ผู้ใช้ทราบล่วงหน้า
4.      ASSC สามารถใช้ข้อมูลทั้งหมดบน AWV ซึ่งรวมถึงการให้คำปรึกษาผ่าน AWV โดยไม่ได้จำกัดแค่ส่วนที่เกี่ยวข้องกับนิติบุคคลต่าง ๆ หรือผู้ใช้เท่านั้นได้อย่างเสรี เพื่อสนับสนุนให้มีการค้นพบและปรับปรุงประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนแรงงานในห่วงโซ่อุปทานวงกว้าง และวัตถุประสงค์ด้านการเคารพสิทธิมนุษยชน การป้องกันการคุกคามสิทธิมนุษย์ชนอื่น ๆ โดยการเผยแพร่เหตุการณ์ในเว็บไซ้ต์ที่ ASSC ดำเนินการโดยคำนึงถึงการไม่ระบุตัวตนของนิติบุคคลต่าง ๆ และผู้ใช้ หรือในขอบเขตอื่น ๆ ที่ ASSC เห็นว่าจำเป็น นิติบุคคลต่าง ๆ สามารถเผยแพร่เหตุการณ์ต่าง ๆ บนเว็บไซต์ที่ดำเนินการโดยนิติบุคคลต่าง ๆ โดยคำนึงถึงการไม่ระบุตัวตนของผู้ใช้ได้เช่นเดียวกับ ASSC นอกจากนี้ ในการใช้ AWV นั้น จะถือว่านิติบุคคลต่าง ๆ และผู้ใช้ได้ยินยอมในเรื่องนี้แล้ว
5.      ผู้ใช้ยอมรับว่า ASSC อาจเก็บเนื้อหาคำปรึกษาของผู้ใช้ไว้เป็นระยะเวลาที่เหมาะสมเพื่อวัตถุประสงค์ในการสำรองข้อมูล, การจัดเก็บถาวรหรือการตรวจสอบ และอาจเก็บรักษาสำเนาการจัดเก็บถาวรของบันทึกของผู้ใช้ในกรณีที่เป็นหน้าที่ตามกฎหมายหรือเพื่อวัตถุประสงค์ในการทำงานที่ชอบธรรม .
 
ข้อที่ 5    (ข้อมูลลงทะเบียน/ข้อมูลส่วนบุคคล)
ASSC จะจัดการข้อมูลลงทะเบียนและข้อมูลส่วนบุคคลตามข้อตกลงนี้และนโยบายความเป็นส่วนตัวที่ ASSC กำหนดไว้ต่างหาก
 
ข้อที่ 6    (การระงับการใช้งาน ฯลฯ )
1.     หาก ASSC พิจารณาแล้วเห็นผู้ใช้เข้าข่าย หรือมีความเสี่ยงที่จะเข้าข่ายในเหตุผลใด ๆ ต่อไปนี้ ASSC สามารถใช้ดุลยพินิจระงับการใช้งาน AWV ทั้งหมดหรือบางส่วน หรือใช้มาตรการอื่น ๆ ที่ ASSC เหมาะสม (ต่อไปนี้จะเรียกว่า “การระงับชั่วคราว ฯลฯ”) กับนิติบุคคลหรือผู้ใช้งานที่เข้าข่ายโดยที่ไม่ต้องบอกกล่าว แจ้งเตือนล่วงหน้าไปยังนิติบุคคลต่าง ๆ และผู้ใช้งาน รวมทั้งไม่ต้องขอความเห็นชอบจากนิติบุคคลต่าง ๆ และผู้ใช้ด้วย อนึ่ง ในกรณีที่มีการระงับชั่วคราว ฯลฯ ASSC จะแจ้งให้บุคคลที่ถูกระงับชั่วคราวทราบทันที อย่างไรก็ตาม หาก ASSC พิจารณาว่าที่อยู่อีเมลที่ลงทะเบียนไว้ไม่สามารถใช้งานได้ จะถือว่าการใช้มาตรการระงับการใช้งานนั้น เป็นการแจ้งให้ผู้ใช้รายนั้นทราบแล้ว
(1)  ในกรณีที่มีการละเมิดข้อตกลงนี้
(2)  กรณีที่ผู้ใช้ฝ่าฝืนกฎหมายและข้อบังคับของประเทศญี่ปุ่นหรือประเทศ/ภูมิภาคที่ผู้ใช้อาศัยอยู่ในขณะที่ใช้งาน
(3)  กรณีที่มีข้อมูลเท็จหรือข้อผิดพลาดในข้อมูลที่ลงทะเบียนไว้
(4)  กรณีที่พิจารณาแล้วเห็นว่าที่อยู่อีเมลที่ลงทะเบียนไม่สามารถใช้งานได้
(5)  กรณีที่ผู้ใช้ลาออกจากบริษัทที่รับทำงานให้นิติบุคคลต่าง ๆ แล้ว
(6)  กรณีที่ผู้ใช้เสียชีวิต
(7)  ในกรณีอื่น ๆ ที่ ASSC เห็นว่าผู้ใช้ไม่มีความเหมาะสม
2.     ในกรณีของวรรคก่อนหน้านี้ หาก ASSC ได้รับความเสียหาย นิติบุคคลต่าง ๆ จะชดใช้ความเสียหายที่เกี่ยวข้องแทนผู้ใช้สำหรับความเสียหายที่เกิดจากการกระทำของผู้ใช้ หรือผู้ใช้จะชดใช้ความเสียหายสำหรับความเสียหายที่เกิดจากการกระทำของตนเองต่อ ASSC โดยตรง
3.     ASSC ไม่มีหน้าที่เปิดเผยต่อผู้ใช้ถึงเหตุผลของมาตรการที่กำหนดไว้ในวรรค 1
 
ข้อที่ 7    (สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา ฯลฯ)
1.     ลิขสิทธิ์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับข้อความ, รูปภาพ, ภาพเคลื่อนไหว, โปรแกรม และข้อมูลอื่น ๆ ที่ประกอบขึ้นเป็น AWV (รวมถึงสิทธิ์ที่กำหนดไว้ในมาตรา 27 หรือ 28 ของพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์) สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาอื่น ๆ, สิทธิในภาพถ่ายบุคคล, สิทธิในการโฆษณาประชาสัมพันธ์, สิทธิในทางศีลธรรมอื่น ๆ, สิทธิการครอบครองและสิทธิอื่น ๆ นั้นเป็นของ ASSC
2.     ASSC บันทึกและสะสมข้อมูลทั้งหมด (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลข้อความ ข้อมูลรูปภาพ ฯลฯ) ที่โพสต์ อัปโหลด หรือบันทึกโดยผู้ใช้บน AWV และใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อให้มั่นใจว่า AWV จะทำงานได้อย่างราบรื่น ซึ่งรวมถึงการแปลเพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินงาน, การปรับปรุง, การโฆษณาของ ASSC และ AWV (รวมถึงบทความเบื้องต้นและเนื้อหาที่โพสต์บนสื่อบุคคลที่สาม) และอาจนำไปใช้โดยองค์กร ฯลฯ และผู้ใช้ยอมรับสิ่งนี้สำหรับข้อมูลทั้งหมดที่ผู้ใช้โพสต์, อัพโหลด หรือเก็บไว้ใน AWV (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะข้อมูลตัวอักษร และข้อมูลรูปภาพ) เมื่อมีการเก็บรักษาไว้แล้ว ASSC จะสามารถนำไปใช้ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น นำไปแปลได้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุง, เพื่อดำเนินการ AWV ได้อย่างราบรื่น หรือเพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ ASSC และ AWV (รวมถึงบทความแนะนำ คอนเทนต์ ฯลฯ ที่เผยแพร่ในสื่อของบุคคลที่สามด้วย) เป็นต้น
3.     นิติบุคคลต่าง ๆ และผู้ใช้ตกลงที่จะไม่ใช้สิทธิในทางศีลธรรมต่อ ASSC หรือใครก็ตามที่ได้รับสืบทอดหรือได้รับมอบสิทธิจาก ASSC
4.     หากปัญหาเช่นการละเมิดสิทธิของบุคคลที่สามเกิดขึ้นเกี่ยวกับผลงานของตนเอง นิติบุคคลต่าง ๆ และผู้ใช้จะต้องแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วยค่าใช้จ่ายและความรับผิดชอบของตนเอง และจะไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนหรือความเสียหายใด ๆ ต่อ ASSC
 
ข้อ 8      (สิ่งต้องห้าม)
1.     ผู้ใช้จะต้องไม่กระทำสิ่งต้องห้ามดังต่อไปนี้
(1)    การแจ้งเรื่องเท็จ
(2)    การกระทำที่ขัดขวางการทำงานของ AWV
(3)    การกระทำที่ทำให้ผู้ใช้รายอื่น, ASSC, หรือบุคคลที่สามอื่น ๆ เสียหาย, เสื่อมเสียชื่อเสียง, หรือละเมิดสิทธิ
(4)    การกระทำอื่นที่ ASSC เห็นว่าไม่เหมาะสม
2.     หากผู้ใช้ละเมิดข้อห้ามใด ๆ ที่กำหนดไว้ในวรรคก่อนหน้านี้ ASSC จะเรียกร้องค่าชดเชยจากผู้ใช้รายนั้นสำหรับความเสียหายทั้งหมด (รวมถึงค่าทนายความที่สมเหตุสมผล) ที่เกิดจากการกระทำนั้น
 
ข้อที่ 9    (การระงับ/ยกเลิก/ยุติ AWV)
1.     ASSC อาจระงับ AWV ทั้งหมดหรือบางส่วน หากเกิดเหตุการณ์ใดๆ ต่อไปนี้
(1)    กรณีที่ ASSC ดำเนินการบำรุงรักษาและตรวจสอบระบบคอมพิวเตอร์เพื่อให้บริการ AWV อย่างสม่ำเสมอหรือเร่งด่วน
(2)    กรณีที่ไม่สามารถดำเนินงาน AWV ได้ เนื่องจากอัคคีภัย, ไฟฟ้าดับ, ภัยพิบัติทางธรรมชาติ, เกิดสงคราม, สงครามกลางเมือง, การจลาจล, เกิดเหตุไม่สงบ, ข้อพิพาทด้านแรงงาน, เกิดโรคระบาด, หรือเหตุการณ์อื่น ๆ ที่เกิดขึ้นซึ่งอยู่นอกเหนือการควบคุมตามสมควรของคู่สัญญาที่เกี่ยวข้อง
(3)    กรณีทีไม่สามารถให้บริการ AWV ได้เนื่องจากระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการให้บริการ AWV ขัดข้อง, มีการเข้าสู่ระบบอย่างไม่ถูกต้องจากบุคคลที่สาม, และการติดไวรัสคอมพิวเตอร์ เป็นต้น
(4)    กรณีที่ไม่สามารถให้บริการ AWV ได้เนื่องจากมาตรการตามกฎหมาย ข้อบังคับ ฯลฯ
(5)    กรณีที่ ASSC แจ้งให้ผู้ใช้ทราบล่วงหน้าทางอีเมลหรือวิธีการอื่นตามขอบเขตที่สมเหตุสมผล
(6)    ในกรณีอื่นๆ ที่ ASSC เห็นว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้
2.     หาก ASSC ระงับการใช้งาน AWV ตามวรรคก่อนหน้านี้ จะแจ้งให้นิติบุคคลต่าง ๆ และผู้ใช้ทราบล่วงหน้าทางอีเมลหรือวิธีการอื่นในขอบเขตที่เหมาะสม ยกเว้นในกรณีฉุกเฉิน
 
ข้อที่ 10  (การจำกัดความรับผิดชอบ)
1.      ASSC ไม่รับประกันความถูกต้องตามกฎหมาย, ความถูกต้อง, ความเหมาะสม, ความสมบูรณ์, เรื่องคุณธรรม, หรือการอนุญาตในเรื่องสิทธิของข้อมูลใดๆ ที่มีอยู่ใน AWV
2.      ASSC จะไม่รับผิดชอบต่อปัญหาใดๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างผู้ใช้ด้วยกันเอง หรือระหว่างผู้ใช้กับบุคคลที่สามรวมถึงนิติบุคคลต่าง ๆ (ข้อเสนอที่ผิดกฎหมายหรือขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน, การหมิ่นประมาท, การดูหมิ่น, การละเมิดความเป็นส่วนตัว, การคุกคาม, การใส่ร้าย, และการกลั่นแกล้ง ฯลฯ) ใน AWV เว้นแต่ว่า ASSC จะมีเจตนาหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง
3.      ASSC จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงความเสียหายอันเนื่องมาจากการสูญเสียข้อมูล ฯลฯ) ที่เกิดขึ้นกับผู้ใช้อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลง AWV จากการระงับ ยกเลิก หรือยุติการใช้งาน AWV ตามที่ระบุไว้ในข้อก่อนหน้านี้ เว้นแต่ ASSC จะมีเจตนาหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง
4.      ASSC จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดจากสภาพแวดล้อมของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล, เครื่องสมาร์ทโฟน, เครื่องปลายทางมือถือ, สายส่ง, ซอฟต์แวร์ ฯลฯ ที่ผู้ใช้ใช้งาน หรือการติดไวรัสคอมพิวเตอร์ อนึ่ง ASSC สามารถแจ้งให้ผู้ใช้ทราบถึงสภาพแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ รวมถึงรูปแบบการใช้งาน AWV ที่เหมาะสม โดยวิธีการที่ระบุแยกไว้ต่างหาก
5.      นอกจากที่ระบุไว้ในแต่ละวรรคก่อนหน้านี้ ASSC จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นกับนิติบุคคลต่าง ๆ หรือผู้ใช้อันเนื่องมาจากการใช้ AWV เว้นแต่ ASSC จะมีเจตนาหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง
6.      การชดใช้ค่าเสียหายของ ASSC ต่อความเสียหายที่เกิดจากข้อตกลงนี้หรือ AWV จะไม่เกินจำนวนค่าบริการการใช้งานที่นิติบุคคลต่าง ๆ หรือผู้ใช้ชำระในเดือนที่เกิดความเสียหาย
7.      กรณีที่สัญญาที่เกี่ยวกับการใช้ AWV ตามข้อตกลงนี้กับผู้ใช้เข้าข่ายสัญญาผู้บริโภคที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติสัญญาผู้บริโภค การจำกัดความรับผิดชอบข้างต้นจะไม่ถูกนำมาใช้ และมูลค่าการชดใช้ความเสียหายของ ASSC ที่เกิดจากข้อตกลงนี้หรือ AWV จะไม่เกินไปกว่าค่าตอบแทนของบริการที่คิดค่าธรรมเนียม (หากใช้บริการอย่างต่อเนื่องจะเท่ากับจำนวนเงินที่ผู้ใช้จ่ายใน 1 เดือนที่ผ่านมา) ภายในขอบเขตค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นตามปกติ ยกเว้นในกรณีที่ความเสียหายนั้นเกิดจากความจงใจหรือความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของ ASSC
 
ข้อที่ 11  (การเจรจาและเขตอำนาจศาล)
1.      ในกรณีที่มีข้อสงสัยหรือปัญหาใดๆ เกิดขึ้นระหว่างนิติบุคคลต่าง ๆ, ผู้ใช้, ASSC, หรือบุคคลที่สามที่เกี่ยวข้องกับ AWV คู่สัญญาที่เกี่ยวข้องจะต้องหารือเกี่ยวกับแต่ละกรณีและพยายามแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ
2.      สำหรับการฟ้องร้องหรือข้อพิพาทอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลงนี้ ศาลแขวงโตเกียวหรือศาลเมืองโตเกียวจะเป็นศาลที่มีขอบเขตอำนาจศาลชั้นต้นแต่เพียงผู้เดียว
 
ข้อที่ 12  (กฎหมายที่บังคับใช้)
ข้อตกลงนี้อยู่ภายใต้และตีความตามกฎหมายของญี่ปุ่น

 

 

วันที่ประกาศใช้: 3 กรกฎาคม 2020
วันที่แก้ไข: 15 พฤษภาคม 2024